อังคุตตรนิกาย

4.97. นิสันติสูตร

ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๔ จำพวกนี้ มีปรากฏอยู่ในโลก ๔จำพวกเป็นไฉน คือ บุคคลเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน แต่ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่นจำพวก ๑ ปฏิบัติเพื่อ ประโยชน์ผู้อื่น แต่ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตนจำพวก ๑ ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตนทั้งไม่ปฏิบัติ เพื่อประโยชน์ผู้อื่นจำพวก ๑ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตนทั้งเพื่อประโยชน์ผู้อื่นจำพวก ๑ ดูกรภิกษุ ทั้งหลาย ก็บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน แต่ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่นอย่างไร บุคคลบางคน ในโลกนี้ เป็นผู้สามารถรู้ได้เร็วในกุศลธรรมทั้งหลาย มีปรกติทรงไว้ซึ่งธรรมที่ได้สดับแล้ว และ ใคร่ครวญอรรถแห่งธรรมที่ตนทรงไว้ รู้อรรถรู้ธรรมทั่วถึงแล้ว เป็นผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม

แต่หามีวาจาไพเราะ กล่าวถ้อยคำอ่อนหวาน ประกอบด้วยวาจาของชาวเมือง อันสละสลวย ไม่มีโทษ ยังผู้ฟังให้เข้าใจเนื้อความไม่ หาชี้แจงให้เพื่อนพรหมจรรย์เห็นชัด ให้สมาทาน ให้อาจ หาญรื่นเริงไม่ บุคคลเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน แต่ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่นอย่างนี้แล ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่น แต่ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตนอย่างไร บุคคล บางคนในโลกนี้ ไม่เป็นผู้สามารถรู้ได้เร็วในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่เป็นผู้มีปรกติทรงธรรมที่ได้สดับ แล้ว ไม่เป็นผู้ใคร่ครวญอรรถแห่งธรรมที่ตนทรงไว้ หาได้รู้อรรถรู้ธรรมทั่วถึงแล้วปฏิบัติธรรมสมควร แก่ธรรมไม่ แต่เป็นผู้มีวาจาไพเราะ กล่าวถ้อยคำอ่อนหวาน ประกอบด้วยวาจาของชาวเมือง อัน สละสลวย ไม่มีโทษยังผู้ฟังให้เข้าใจเนื้อความ เป็นผู้ชี้แจงให้เพื่อนพรหมจรรย์เห็นชัด ให้สมาทาน อาจหาญ รื่นเริง บุคคลเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่น แต่ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตนอย่างนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน ทั้งไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่นอย่างไร บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้ไม่สามารถรู้ได้เร็วในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่เป็นผู้มีปรกติทรงธรรม ที่ได้สดับแล้ว และไม่เป็นผู้ใคร่ครวญอรรถแห่งธรรมที่ตนทรงจำไว้ หาได้รู้อรรถรู้ธรรมทั่วถึงแล้ว

ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมไม่ ทั้งหาเป็นผู้มีวาจาไพเราะ กล่าวถ้อยคำอ่อนหวาน ประกอบด้วย วาจาของชาวเมือง อันสละสลวยหาโทษมิได้ ยังผู้ฟังให้เข้าใจเนื้อความไม่ ทั้งไม่ชี้แจงให้เพื่อน พรหมจรรย์เห็นชัด ให้สมาทาน อาจหาญ รื่นเริง บุคคลเป็นผู้ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตนทั้งไม่ ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่นอย่างนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตนทั้งเพื่อ ประโยชน์ผู้อื่นอย่างไร บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้สามารถรู้ได้เร็วในกุศลธรรมทั้งหลาย มี ปรกติทรงจำธรรมที่ได้สดับแล้ว มีปรกติใคร่ครวญอรรถแห่งธรรมที่ตนทรงจำไว้ รู้อรรถรู้ธรรมทั่วถึง แล้ว ปฏิบัติธรรมตามสมควรแก่ธรรม ทั้งเป็นผู้มีวาจาไพเราะ กล่าวถ้อยคำอ่อนหวาน ประกอบ ด้วยวาจาของชาวเมือง สละสลวย หาโทษมิได้ ยังผู้ฟังให้เข้าใจเนื้อความ และเป็นผู้ชี้แจงให้ เพื่อนพรหมจรรย์เห็นชัด ให้สมาทาน อาจหาญ ร่าเริง บุคคลเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน ทั้งเพื่อประโยชน์ผู้อื่นอย่างนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล๔ จำพวกนี้แล มีปรากฏอยู่ในโลก ฯ

จบสูตรที่ ๗