สังยุตตนิกาย

สคาถวรรค

พราหมณสังยุตต์

อุปาสกวรรคที่ ๒

โขมทุสสสูตรที่ ๑๒

ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ นิคมชื่อว่า โขมทุสสะของเจ้าศากยะ ในแคว้นสักกะ ฯ ครั้งนั้นเวลาเช้า พระผู้มีพระภาคทรงนุ่งแล้วทรงถือบาตรและจีวร เสด็จเข้าไปบิณฑบาตยังโขมทุสสนิคม ฯ สมัยนั้น พราหมณ์และคฤหบดีชาวโขมทุสสนิคมประชุมกันอยู่ในสภาด้วยกรณียกิจบางอย่าง และฝนกำลังตกอยู่ประปราย ฯ ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเสด็จเข้าไปยังสภานั้น ฯ พราหมณ์และคฤหบดีชาวโขมทุสสนิคม ได้เห็นพระผู้มีพระภาคเสด็จมาแต่ไกล ครั้นแล้ว ได้กล่าวคำนี้ว่า คนพวกไหนชื่อว่าสมณะโล้น และคนพวกไหนรู้จักธรรมของสภา ฯ

ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกะพราหมณ์และคฤหบดีชาวโขมทุสสนิคด้วยพระคาถาว่า ในที่ใดไม่มีคนสงบ ที่นั้นไม่ชื่อว่าสภา คนเหล่าใดไม่กล่าวธรรม คนเหล่านั้นไม่ชื่อว่าคนสงบ คนสงบละราคะโทสะและโมหะแล้ว กล่าวธรรมอยู่ ฯ

เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว พราหมณ์และคฤหบดีชาวโขมทุสสนิคมได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ท่านพระโคดม ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก ท่านพระโคดม ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก ท่านพระโคดม ทรงประกาศธรรมโดยอเนกปริยาย เหมือนหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางให้แก่คนหลงทาง หรือส่องประทีปในที่มืด ด้วยหวังว่าคนมีจักษุจักเห็นรูปฉะนั้น พวกข้าพระองค์เหล่านี้ขอถึงท่านพระโคดมผู้เจริญกับพระธรรมและพระภิกษุสงฆ์เป็นสรณะ ขอท่านพระโคดมทรงจำพวกข้าพระองค์ว่าเป็นอุบาสกถึงพระรัตนตรัยว่าเป็นสรณะตลอดชีวิต ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ดังนี้ ฯ

จบอุบาสกวรรคที่ ๒

รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ ๑. กสิสูตร ๒. อุทัยสูตร ๓. เทวหิตสูตร ๔. มหาศาลสูตร ๕. มานัตถัทธสูตร ๖. ปัจจนิกสูตร ๗. นวกรรมิกสูตร ๘. กัฏฐหารสูตร ๙. มาตุโปสกสูตร ๑๐. ภิกขกสูตร ๑๑. สังครวสูตร ๑๒. โขมทุสสสูตร ฯ

จบพราหมณสังยุต